ตามหลักการการออกแบบถนนสายหลักของประเทศที่เชื่อมโยงภูมิภาคต่าง ๆ เข้าด้วยกัน (ถนนลำดับศักย์สูงสุด) จะต้องเป็นทางหลวงแบบจำกัดทางเข้า (Limited Access) ซึ่งจะไม่มีการเข้าออกโดยตรงจากแปลงที่ดิน ห้ามมีกิจกรรมและการใชประโยชน์ที่ดินในเขตทาง และห้ามการสัญจรบางประเภทที่ไม่เหมาะสมกับความเร็วที่กำหนดไว้ในการออกแบบ เพราะถนนสายหลักของประเทศจะต้องรองรับการสัญจรความเร็วสูง และมีปริมาณการสัญจรหนาแน่น ดังนั้น การหยุดหรือการวิ่งด้วยความเร็วต่ำบนทางหลวงสายหลักเป็นการเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง
แต่ทางหลวงแผ่นดินของประเทศไทย กลายเป็นสถานที่ประกอบการค้าของพ่อค้าแม่ค้า ทำให้เกิดการชลอรถ หยุดรถ และออกรถในความเร็วต่ำเพื่อซื้อสินค้า ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย แต่การกระทำดังกล่าวก็ยังคงอยู่ เหมือนกับเป็นเรื่องที่ทำได้โดยชอบธรรม แม้ว่ากรมทางหลวงผู้ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จะพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวทั้งด้วยหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก็ไม่เคยมีการสืบสวนไปถึงต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริง ปัญหาเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ต่อไป จนกว่าผู้ที่มีอำนาจรับผิดชอบจะประสบอุบัติเหตุเอง ปัญหานี้จึงจะได้รับความสนใจ