Saturday, February 17, 2007

คำนวณผิด อย่างนี้เสี่ยงอันตรายนะครับ

ถ้าใครเคยขึ้นรถไฟฟ้า BTS ในชั่วโมงเร่งด่วนที่สถานีสยาม จะพบว่าต้องรอรถไฟฟ้าเป็นเวลานาน บางครั้งต้องรอถึงสามคันกว่าจะได้ไป ทางรถไฟฟ้าเองก็ทราบถึงปัญหาดังกล่าว ก็ได้พยายามแก้ปัญหาด้วยการส่งเจ้าหน้าที่พร้อมกับโทรโข่งมาอำนวยความสะดวก แต่ต้นเหตุของปัญหาไม่ได้อยู่ที่การจัดระเบียบการขึ้นลงรถของผู้โดยสาร แต่อยู่ที่การจัดการของ BTS เอง ที่ยังไม่สามารถทำให้ระบบทั้งหมดเดินได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในชั่วโมงเร่งด่วน แต่กลับปล่อยให้ผู้โดยสารเข้ามายืนรอที่ชานชลาจนล้น และอาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น เหยียบกันตาย หรือ หนีภัยไม่ทันในกรณีฉุกเฉินได้

ดูแนวเส้นที่พื้น เส้นทึบสีน้ำตาลเข้ม คือแนวที่ออกแบบไว้ว่าด้านข้างชานชลาเป็นที่พักคอยรถไฟฟ้า ส่วนตรงกลางคือช่องทางเดิน แต่ในชั่วโมงเร่งด่วน คนจะยืนรอรถไฟฟ้าเกินแนวดังกล่าว


หลักฐานของการมีผู้โดยสารเกินกว่าที่ชานชลาจะรองรับได้เห็นได้ชัดจากภาพทั้งสอง ชานชลานี้เป็นชานชลาแบบอยู่ตรงกลาง และรถเทียบสองข้าง เพื่อให้การเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารจากรถคันหนึ่งไปสู่รถอีกคันหนึ่งเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แต่ก็ยังต้องเว้นช่องตรงกลางของชานชลาสำหรับผู้โดยสารที่จะออกที่สถานีนี้ หรือเปลี่ยนรถในอีกระดับหนึ่งด้วย พื้นที่ตรงกลางสำหรับเป็นช่องทางเคลื่อนที่ (Circulation Path) นี้ คือ บริเวณใต้หลังคาโครงถัก ที่มีเพดานสูงที่สุดในภาพ ส่วนด้านข้างของช่องทางเดินนี้ทั้งสองข้างไปจนสุดด้านข้างชานชลาคือที่ยืนคอยรถแต่ละฝั่ง แต่เห็นได้ชัดว่า คนที่ยืนรอรถไฟฟ้าสายอ่อนนุชล้นพื้นที่พักคอยมายืนอยู่บนช่องที่ที่จะใช้เป็นทางเดิน ลองนึกถึงกรณีฉุกเฉิน ที่รถไฟฟ้าทั้งสองฝั่งมาช้าพร้อม ๆ กัน ผู้โดยสารที่ยืนรอทั้งสองฝั่งก็จะล้นมายืนเต็มทางเดิน ซึ่งจะไม่ได้มาตรฐานตามหลักของความปลอดภัยอย่างแน่นอน จริง ๆ แล้วจากเทคโนโลยีการจัดการสถานีและรถไฟฟ้าที่ BTS ใช้อยู่ สามารถคำนวณปริมาณคนที่อยู่ในสถานีได้แบบเวลาจริง (Real time) และสามารถจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่รออยู่บนชานชลาให้ไม่เกินกว่ามาตรฐานที่ดีได้โดยง่าย แต่คงไม่มีใครสนใจจะทำเพราะขัดกับหลักการการตลาดในเรื่องความสะดวกสบายในการใช้บริการ คงต้องรอให้เกิดเหตุฉุกเฉินแล้วผิดพลาดกันเสียก่อน จึงจะหันมาสนใจความปลอดภัยสาธารณะกันได้