พี่คนนี้ทำหน้าที่ขายฝันให้กับผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานของตนเองได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงอย่างโรงเรียนสาธิตฯ ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งรับนักเรียนเฉพาะชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เท่านั้น โดยพี่เขาเอาหนังสือสรุปเนื้อหาวิชาต่าง ๆ ที่แต่งโดยอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งนี้เองนั่นแหละ มาวางขายให้กับผู้ปกครอง แสดงถึงความยากลำบากในการดำรงชีวิตเมืองของคนไทยในยุคปัจจุบัน ที่การกวดวิชากลายเป็นสิ่งจำเป็นในทุกระดับการศึกษา ไม่เว้นแม้แต่การเข้าเรียนระดับประถมศึกษา และยังสะท้อนไปถึงความล้มเหลวของการศึกษาในระบบ โยงไปถึงความอ่อนแอของกิจกรรมในระบบทุกอย่างไปด้วย
ถัดไปอีก ๒๐ เมตร พบพี่ที่สติไม่ดีกำลังนั่งขีดเขียนอะไรสักอย่างอยู่กับพื้นดินข้างรั้ว จะบอกว่า "ขีดเขียนอย่างมีความสุข" ก็คงไม่ได้ เพราะหน้าตาพี่เขาดูเอาจริงเอาจังและไม่ค่อยเพลิดเพลินกับการขีดเขียนนัก แต่ในอีกมุมหนึ่ง เมื่อเทียบกับพี่ขายหนังสือกวดวิชาคนแรก พี่สติไม่ดีนี้กลับไม่ต้องกังวลเรื่องใด ๆ นอกจากเรื่องที่เป็นพื้นฐานในชีวิตเท่านั้น เขาไม่ต้องกลัวว่า เทศกิจจะมาจับฉันหรือเปล่า หนังสือกวดวิชาที่ฉันขายจะถูกผู้ปกครองมาด่าว่าทำให้ลูกเขาเข้าโรงเรียนไม่ได้หรือไม่ เพราะแค่นี้พี่เขาก็คงธุระยุ่งจนไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่นแล้วหละ แต่พี่คนนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของระบบสาธารณสุขและการดูแลผู้ป่วยทางจิตของสังคมไทย คนเหล่านี้ต้องการการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและมีสุขอนามัยที่ดีกว่าที่จะปล่อยให้ถือขวดยาฆ่าแมลงเดินไปมาและอยู่อย่างสกปรกตามท้องถนน