การทำบุญในทางพุทธศาสนาแล้ว มีความมุ่งหมายเพื่อทำนุบำรุงศาสนาให้คงอยู่ต่อไป เนื่องจากวัดและพระภิกษุจะดำรงศีลและธรรมอยู่ได้ต้องไม่ยุ่งกับธุรกิจ จึงเป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนมาทำหน้าที่ในส่วนที่ผู้ทรงศีลไม่สามารถยุ่งเกี่ยวได้ เป็นการทำหน้าที่พึ่งพาซึ่งกันและกัน สถาบันศาสนาทำหน้าที่เป็นที่พึ่งทางจิตใจให้กับสังคม และในทางกลับกันสังคมก็ต้องให้การพึ่งพาด้านปัจจัยจำเป็นต่อสถาบันศาสนา แต่ในปัจจุบันแก่นแท้แห่งการทำบุญเพื่อทำนุบำรุงศาสนา "ขาย" ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จึงต้องหา "จุดขาย" ใหม่ ๆ เช่น
ที่วัดพระปฐมเจดีย์ มีป้ายแสดงคาถาบูชาอย่างถูกวิธี หมายความว่าถ้าใช้ถ้อยคำอื่น พระร่วงฯ จะไม่เข้าใจ และยังแสดง "ผลตอบแทน" ของการบูชาพระร่วงฯ อย่างถูกวิธีไว้ ๑๐ ประการ ซึ่งแต่ละประการล้วนแต่เป็น Promotion ว่าจะได้ "ผลตอบแทน" แก่ตัวเองที่เลอเลิศ เพียงแต่ใช้ถ้อยคำบูชาอย่างถูกวิธีเท่านั้น นี่คือมูลเหตุแห่งความเกียจคร้านในสังคมไทยหรือเปล่านะ