กฎจราจรระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามรถประจำทางรับส่งผู้โดยสารนอกเหนือจากจุดที่ได้กำหนดไว้เป็นที่หยุดรับส่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและความสะดวกในการสัญจรของยานพาหนะคันอื่น ๆ บนถนน ดังนั้น รถประจำทางจึงต้องปิดประตูไว้ขณะที่อยู่นอกป้ายหยุดรถ จะเปิดก็ต่อเมื่อเข้าจอดที่ป้ายหยุดรถเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่กฎจราจรกำหนดไว้ แถมยังมีการส่งเสริมให้รับส่งผู้โดยสารนอกป้ายเสียอีก เพราะรายได้หลักของรถประจำทางมาจากค่าตั๋วโดยสาร แถมยังมีการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานขับรถและพนักงานเก็บสตางค์รับผู้โดยสารให้ได้มากด้วยการกำหนดอัตราส่วนแบ่งค่าตั๋วโดยสารให้เป็นแบบก้าวหน้า คือยิ่งมีผู้โดยสารมากก็ยิ่งได้ส่วนแบ่งมาก
เราจึงพบกันได้เป็นปกติว่า รถประจำทางมักจะรับส่งผู้โดยสารนอกป้ายอยู่เสมอ ลองสังเกตดูตอนที่รถประจำทางจอดติดไฟแดงอยู่บริเวณแยกสำคัญ ที่มีคนต้องการขึ้นลงรถเป็นจำนวนมากสิ จะพบว่ารถประจำทางจะเปิดประตูทิ้งไว้เสมอ แม้ว่าจะอยู่นอกป้ายหยุดรถก็ตาม (ดูรถประจำทางสีฟ้า-ขาว) ผู้โดยสารก็ได้ประโยชน์เพราะสามารถขึ้นลงได้ใกล้กับจุดหมายปลายทางที่ตนเองต้องการ พนักงานขับรถก็ได้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น จึงเป็นการสมประโยชน์กันระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลักสองฝ่าย แต่ที่เสียประโยชน์คือสังคมโดยรวม และผู้ที่สัญจรอยู่บนถนนเส้นนั้น ที่ต้องมารับความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุจากการสมประโยชน์ดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมักไม่สนใจ เพราะคิดว่าเป็นความเสี่ยงของทั้งสองฝ่ายที่ยอมรับกันได้ จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องประกาศดัง ๆ ว่า ผมก็เป็นผู้เสียประโยชน์และไม่ยอมรับการกระทำดังกล่าวนะครับ