Saturday, January 19, 2008

ทำไมเราจึงไม่เป็นอย่าง "ประเทศอื่น ๆ" บ้างนะ

ด้วยหน้าที่การงานของผู้เขียนทำให้ต้องไปนั่งอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชนอยู่เสมอ ไอ้เรื่องความขัดแย้งนั่นคือเรื่องหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการที่ภาครัฐจัดทำโครงการหรือแผนพัฒนาต่าง ๆ โดยใช้มุมมองของภาครัฐเป็นที่ตั้ง นี่เป็นปัญหาสำคัญของการวางแผนพัฒนาที่ภาครัฐมีอำนาจมากเกินไป เอาความคิดของตนเองไปครอบประชาชน เป็นวิธีการวางแผนที่ล้าสมัยโดยให้นักวางแผน "สมมติตนเอง" ว่าเป็นประชาชน แล้วประชาชนต้องการอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งการสมมตินั้นไม่ประสบความสำเร็จ เหมือนกับการวางแผนด้วยการเล่นขายของแบบเด็ก ๆ เขาเล่นกัน คือสมมติให้ตนเองเป็นคนนู้นคนนี้ แต่ก็ไม่ได้รู้จริงหรอก ซึ่งก็พยายามแก้ไขด้วยการให้ประชาชนจริง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นของการวางแผน แต่ก็ยังล้มลุกคลุกคลาน ต้องปรับแต่งกันอีกนานทีเดียว

แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนอยากอ้วกที่สุด คือ ความรู้สึกอยากมีอยากได้อย่างคนอื่น (ประเทศอื่น) ที่เขาเป็นกัน จะพบมากกับชนชั้นกลาง พวกเจ้าของกิจการเอกชน เมื่อเขาเข้ามาแสดงความเห็นในประเด็นต่าง ๆ เกือบทุกคนจะยกตัวอย่างว่า "ดิฉัน/ผม ไปประเทศนั้น ประเทศนี้มา เห็นว่าเขาดีดังนู้นดังนี้ ทำไมของเราไม่เป็นอย่างเขาบ้าง" บางครั้งผู้เขียนทนไม่ได้สวนกลับไปว่า "คุณอยากให้ประเทศเราเป็นอย่างเขา แล้วคุณให้ประเทศนี้อย่างที่คนของเขาให้หรือเปล่าล่ะ เช่น เสียภาษีในอัตราร้อยละ ๕๐ อย่างเขาได้ไหมล่ะ" พอเจอคำถามนี้กลับไปก็เงียบ เลี่ยงเป็นเรื่องอื่น หรือเอาความโกรธมาบังหน้า ก็ว่ากันไปตามเรื่อง ผู้เขียนเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเรามักจะมองทุกอย่างที่เปลือก ว่าประเทศไทยไม่ดี คนนู้นคนนี้ไม่ดี ไม่ทำตามหน้าที่ แต่ไม่มองย้อนกลับมาที่ตนเอง ผู้ประกอบการนั่นแหละตัวดี เลี่ยงภาษีทุกวิถีทางที่จะเป็นไปได้ แต่กลับเป็นผู้เรียงร้องเอาประโยชน์จากภาครัฐมากที่สุด

ที่น่าสังเกตคือ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมมักจะทำตนเป็น "หมาหวงก้าง" ที่ประท้วงต่อต้านโครงการของภาครัฐที่จะไปลงในพื้นที่ตนเอง ผู้เขียนเคยทดสอบสมมติฐานนี้ ด้วยการปล่อยให้พวกเขายกประเด็นคัดค้าน ประเด็นไม่ดีของโครงการภาครัฐที่ถูกนำเสนอมาให้หมด เขียนบนกระดานหลายสิบข้อ ล้วนแต่เป็นข้อหาฉกรรจ์ทั้งนั้น สรุปได้ว่ายังไงจังหวัดนี้ก็ไม่เอาโครงการนี้แน่ ๆ พอได้ข้อสรุปแล้ว ผู้เขียนก็ถามว่า เมื่อประชาชนในจังหวัดนี้ไม่เอา แต่โครงการนี้มีมูลค่ามหาศาล แล้วถ้าผมไปถามจังหวัดข้าง ๆ คุณ แล้วประชาชนของจังหวัดข้าง ๆ เขายอมรับโครงการนี้ ส่งผลให้เม็ดเงินและการจ้างงานไปลงจังหวัดข้าง ๆ หมดเลย แล้วพวกคุณจะไม่ได้เงินเลยนะ จังหวัดข้าง ๆ จะมาเป็นคู่แข่งสำคัญของคุณเลยนะ" เจอคำถามนี้เข้าไป เสียงเปลี่ยนเลยหละ กลายเป็นว่า หัวข้อไม่ดีทั้งหลายบนกระดานที่ด่ากันมาทั้งหมด เป็นแค่ข้อสังเกต ให้เตรียมการล่วงหน้าเพื่อป้องกันไว้ก่อนเท่านั้น ถ้าวางแผนกันดี ๆ ปัญหาเหล่านั้นก็ไม่เกิด สุดท้ายก็คือ ช่วยเอาโครงการนี้มาลงทีเถอะ อย่าให้จังหวัดอื่น ๆ เอาไปเลยนะ อ้าว แล้วคัดค้านตั้่งแต่ต้นหาอะไรล่ะ