เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฝนตกตั้งแต่เช้ายันเย็น ซึ่งเป็นเรื่องแปลกสำหรับกรุงเทพฯ เลยไปถามคนที่อยู่กรุงเทพฯ มา ๕๐ กว่าปีแล้ว ก็ได้คำตอบว่า ปกติแล้วฝนในกรุงเทพฯ จะเป็นฝนฟ้าคะนอง แต่จะตกอย่างหนักแค่ช่วงเดียวแล้วก็หยุดไปเลย ไม่เคยมีแบบที่ตกปรอย ๆ ทั้งวันอย่างที่เป็นอยู่ในช่วงนี้ และไม่มีการตกแบบที่ฟ้าสว่างแบบนี้ เวลาฝนตกฟ้าจะมืดตลอด จากบทสนทนาดังกล่าวได้ข้อสรุปว่า สภาพอากาศกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเป็นปกติมาในอดีต หรือว่าชาวกรุงเทพฯ จะได้มีโอกาสเห็นหิมะในเมืองกันบ้างนะ
Tuesday, June 19, 2007
อากาศแปรปรวน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฝนตกตั้งแต่เช้ายันเย็น ซึ่งเป็นเรื่องแปลกสำหรับกรุงเทพฯ เลยไปถามคนที่อยู่กรุงเทพฯ มา ๕๐ กว่าปีแล้ว ก็ได้คำตอบว่า ปกติแล้วฝนในกรุงเทพฯ จะเป็นฝนฟ้าคะนอง แต่จะตกอย่างหนักแค่ช่วงเดียวแล้วก็หยุดไปเลย ไม่เคยมีแบบที่ตกปรอย ๆ ทั้งวันอย่างที่เป็นอยู่ในช่วงนี้ และไม่มีการตกแบบที่ฟ้าสว่างแบบนี้ เวลาฝนตกฟ้าจะมืดตลอด จากบทสนทนาดังกล่าวได้ข้อสรุปว่า สภาพอากาศกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเป็นปกติมาในอดีต หรือว่าชาวกรุงเทพฯ จะได้มีโอกาสเห็นหิมะในเมืองกันบ้างนะ
ฝ่าฝืนกันจนเป็นเรื่องปกติ
ตัวอย่างเช่น บริเวณใกล้สถานีรถไฟหัวลำโพงย่านร้านรับส่งสินค้าของเอกชน จะพบรถเบนซ์คันนี้จอดตรงนี้อยู่ทุกวัน จอดมันตรงป้ายห้ามจอดนั่นแหละ คนที่ผ่านไปมา น้อยคนนักที่จะรู้สึกว่ารถคันนี้ทำผิดจริยธรรม แต่กลับคิดว่า เขาเก่งจริง ๆ ที่สามารถทำให้ผู้รักษากฎหมายไม่รักษาจริยธรรมและความยุติธรรมได้ ซึ่งเขาก็คงเก่งจริงแหละ เพราะจอดมันได้ทุกวัน คาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงกลัวรถเบนซ์ เพราะเมื่อคืนวาน ลูกชายอดีตนางสาวไทยขับรถเบนซ์ไล่ชนคนบนทางเท้าต่อหน้าตำรวจ เชื่อไหมว่า ความเห็นในเวบบอร์ดต่าง ๆ ออกมาเป็นเอกฉันท์ว่า เขาคงไม่ถูกดำเนินคดีหรอก เพราะเมื่อเขารวยพอที่จะขับรถเบนซ์ เขาก็คงรวยพอที่จะให้กฎหมายไม่สามารถลงโทษเขาได้
ไม่เป็นไรน่า แป๊บเดียวเอง
เศรษฐกิจพอเพียง กับมุมมองที่แตกต่าง
กรุงเทพฯ หลังฝนตก (อีกครั้ง)
ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ๆ จึงมีฉากกรุงเทพฯ หลังฝนตกมาให้ดูกันสนุก ๆ ว่า การก่อสร้างพื้นที่สาธารณะในประเทศที่มีฝนตกมากอย่างในประเทศเรา ได้ทำการก่อสร้างตอบสนองกับผลกระทบของสภาพอากาศได้ดีเพียงใด พื้นที่สาธารณะจำนวนมากกลับไม่สามารถใช้งานได้ การที่พื้นที่สาธารณะไม่สามารถใช้งานได้หลังฝนตก ก่อให้เกิดปัญหาเมืองมากมาย เพราะพื้นที่ใช้สอยที่ถูกแบ่งพื้นที่เฉพาะเอาไว้แล้ว เช่น ทางเท้า ไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้คนเดินเท้าต้องลงไปใช้พื้นที่เดียวกับรถยนต์ นำมาซึ่งความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุเป็นอย่างยิ่ง แต่เรื่องเหล่านี้เหมือนไฟไหม้ฟาง คือพอเกิดน้ำท่วมใช้งานไม่ได้ก็ออกมาโวยวายกัน แต่พอน้ำระบายไปหมดก็ไม่มีใครสนใจอีกต่อไป
ช่างสรรหาที่ติดป้ายโฆษณาเหลือเกิน
เขาต้องเสี่ยงตายเพราะความมักง่ายของคุณ
ไม่แน่จริงนี่หน่า ๒
เพราะคำว่า "คิว" ไม่ใช่ภาษาไทย
ปล่อยปละละเลย
หมวกกันน็อคไม่ได้มีไว้ถือนะครับ
เป็นเสียเองอีกแล้ว
เพื่อที่จอดรถ ฉันทำได้ทุกวิถีทาง
งบซ่อมบำรุงและดูแลรักษาหายไปไหน
กรุงเทพฯ หลังฝนตก
ไม่กลัวอันตรายกันบ้างเลย
รู้ปัญหาแต่ไม่แก้ไข
ตัวอย่างเช่น ในโรงอาหารแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ก็ยังคงมีนกพิราบมาทานอาหารร่วมกับนักศึกษาได้โดยไม่มีใครเห็นว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด ที่น่าตกใจก็คือ นี่เป็นโรงอาหารของคณะที่มีหน้าที่ผลิตบัณฑิตที่จะมาออกแบบสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ดีให้กับคนไทยเสียด้วย แม้แต่สภาพแวดล้อมของนักศึกษาเองยังเป็นอย่างนี้ จึงไม่แปลกใจแต่อย่างใดที่สภาพแวดล้อมทางกายภาพของประเทศไทยจึงมีปัญหาทั้งด้านความสะดวกและความปลอดภัยอยู่จนถึงทุกวันนี้ และไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้นได้อย่างไร
ที่น่าตกใจกว่าข้อสังเกตด้านบน ก็คือได้มีอาจารย์อีกคณะหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ได้ทำการศึกษาถึงอันตรายของมูลนกพิราบเอาไว้แล้ว ว่าเป็นพาหะของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ http://www.chula.ac.th/chula/th/news/news270450b.html แถมยังโพสไว้ในหน้าแรกของเวบไซด์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เสียด้วย แต่คนภายในมหาวิทยาลัยกลับไม่สนใจคำเตือนนี้เลยแม้แต่น้อย หรือว่าเขาเยื่อหุ้มสมองอักเสบกันไปหมดแล้วนะ
ไม้ร่ม นกเกาะ
Saturday, June 16, 2007
นั่นไม่เงินของพี่นะครับ แต่มันเป็นเงินภาษีประชาชน

แต่อยากให้ประชาชนทุกคนระลึกไว้เสมอว่า เงินที่นำมาก่อสร้างหรือจัดซื้ออุปกรณ์หรือโครงสร้างพื้นฐานเหล่านั้น ไม่ใช่เป็นเงินของนักการเมืองที่ประทับชื่อไว้บนอุปกรณ์ แต่เป็นเงินภาษีประชาชนที่พวกเราทุกคนจ่ายเพื่อให้ภาครัฐจัดซื้อ จัดสร้าง หรือซ่อมบำรุงอุปกรณ์สาธารณะให้มีสภาพที่ดีเหมาะกับการเป็นชุมชนมนุษย์ที่ดี ดังนั้น อุปกรณ์เหล่านั้นจึงมาจากเงินของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะได้มาโดยการจัดสรรให้ตามปกติ หรือนักการเมืองเขามี power ไปแย่งของคนอื่น ๆ มาได้ก็ตามที นักการเมืองพวกนี้พยามยามที่จะ "ทวงบุญคุณ" โดยบอกว่า เพราะกระผม/ดิฉัน พวกคุณจึงมีศาลาพักคอยรถประจำทาง หรือเก้าอี้นั่งพักรอรถเมล์ใช้งานนะ ใครเจอพวกเขาเหล่านี้ ช่วยเอารูปที่ผมถ่ายนี้ไปบอกเขาด้วยว่า เงินของประชาชนนะครับ กรุณาใส่ชื่อประชาชนที่เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฏหมายให้ครบทุกคนด้วย อย่าเอาหน้าเพียงคนเดียว
ผลกระทบที่ไม่เคยรับรู้
ถ้าใครเดินผ่านจุดจอดรถตู้ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง จะพบสิ่งน่าแปลกใจอยู่สองประการ อันที่หนึ่งคือ การประกาศราคาและจุดหมายในการเดินทาง เช่น "ท่าน้ำสี่พระยาสิบบาทขึ้นเลยครับ" นี่คือการแข่งขันที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงทางการจราจร เพราะรถตู้ตั้งราคาแข่งกับรถประจำทางปรับอากาศ (รถ ปอ.) ซึ่งดูเผิน ๆ น่าจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค แต่ในสภาพการจราจรที่เลวร้ายอย่างในกรุงเทพฯ การแข่งขันแบบนี้ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนในการให้บริการ ทั้งรถ ปอ. และรถตู้ต่างต้องวิ่งบนเส้นทางเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่เส้นทางนั้นก็มีการจราจรที่ติดขัดมากอยู่แล้ว ทำไมจึงไม่วางแผนร่วมกันแล้วแบ่งหน้าที่กันทำไปคนละเส้นทาง ประการที่สอง คือ ภาครัฐมีมาตรการที่ขัดแย้งกันเอง เพราะในมุมหนึ่งภาครัฐอนุญาตให้รถตู้จอดตรงนี้ แต่ภาครัฐเองก็ไม่ได้เตรียมพื้นที่ทางพักคอย และบริการสนับสนุนกับการเป็นท่ารถ เช่น พื้นที่สำหรับร้านค้า เอาไว้เลย ซึ่งขัดแย้งกับวิถีปกติของการเป็นท่ารถ ที่จะต้องมีคนมายืนคอยขึ้นรถและลงรถ และระหว่างที่คอยก็ต้องมีบริการพื้นฐานในร้านค้าเอาไว้อำนวยความสะดวกด้วย ก็เลยกลายเป็นว่า ร้านค้าและพื้นที่พักคอยต้องมาใช้ทางเท้าซึ่งแคบอยู่แล้ว แถมยังเป็นบริเวณที่มีคนสัญจรผ่านไปมาอีกด้วย
ถังรับน้ำรั่วหรือถังขยะ


ถ้าใครผ่านบนสถานีรถไฟฟ้าสยาม ด้านทางเชื่อมต่อกับศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ จะพบกระป๋องพลาสติกสีเขียวใบหนึ่งตั้งอยู่อย่างสง่าผ่าเผยมาหลายวันแล้ว พอเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่า เป็นถังเอนกประสงค์ คือใช้ประโยชน์อยู่สองอย่าง หนึ่งคือเป็นถังขยะ มีขวดน้ำพลาสติกหลายใบอยู่ในนั้น และสองใช้เป็นถังรับน้ำรั่วที่หยดลงมาจากเพดาน น่าสงสัยว่า น้ำรั่วมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้แก้ไขเสียที ทำให้ถังใบนี้ต้องมายืนเสี่ยงภัยต่อการโดนเตะจากคนที่สัญจรผ่านไปมา เพราะเป็นบริเวณที่มีการเปลี่ยนทิศทางมากมาย ทำให้คนสนใจแต่ทิศทางที่จะไป ไม่ได้สนใจว่าจะมีอุปสรรคเตี้ย ๆ อยู่บนพื้นหรือเปล่า ถ้าคนมาเตะแล้วบาดเจ็บรถไฟฟ้าเขาก็คงจ่ายค่าชดเชยให้ แต่ถ้าถังพลาสติกบาดเจ็บ คงไม่มีใครสนใจมันหรอก
Thursday, June 14, 2007
รถป้ายแดง ปัญหาที่ไม่มีใครคิดจะแก้ไขอย่างจริงจัง
จริง ๆ แล้วมาตรการไม่ให้รถป้ายแดงออกมาวิ่งบนท้องถนนทำได้ง่ายมาก แต่กลับไม่มีใครคิดที่จะแก้ไขกันอย่างจริงจัง ในหลาย ๆ ประเทศ เขาไม่มีป้ายแดงเลย มีแต่ทะเบียนจริงเท่านั้น มาตรการง่าย ๆ ก็คือ ควบคุมที่ผู้ขายรถยนต์ กำหนดให้ผู้ขายรถยนต์ไม่อนุญาตให้ผู้ซื้อเอารถออกจากโชว์รูมได้ ถ้าไม่เอาป้ายทะเบียนจริงมาติด ถ้าเจอรถป้ายแดงวิ่งอยู่บนถนน ก็ตามไปจับเจ้าของโชว์รูมด้วย มาตรการง่าย ๆ แค่นี้ แต่ไม่มีใครคิดจะทำ คงเป็นเพราะเจ้าของบริษัทรถยนต์มีอำนาจมากกว่าสาธารณชนนั่นเอง
Wednesday, June 13, 2007
ช่างหัวฉันได้ไหม
ป้องกันตนเอง
ทำไมต้องก้มหัว
เสียดายเงิน
แผ่นดินนี้เราจอง
Monday, June 4, 2007
ทำไมต้องจอดรถในที่ห้ามจอด
ภาพนี้ถ่ายบริเวณก่อนขึ้นสะพานพระราม๘ จากฝั่งธนบุรี เห็นได้ว่า มีป้ายห้ามจอดอยู่ แต่กลับมีรถยนต์จอดอยู่ ทำให้ช่องทางที่มีน้อยอยู่แล้วยิ่งแคบลงไปอีก ส่งผลให้การจราจรติดขัด แต่จะไปโทษคนที่จอดรถอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะหน่วยงานของรัฐได้ออกมาตรการที่ขัดแย้งกันเอง เพราะหน่วยงานของรัฐได้อนุญาตให้ตึกแถวข้างถนนก่อสร้างขึ้นมาโดยไม่มีที่จอดรถได้ ซึ่งโดยปกติแล้วตึกแถวก็จะประกอบการพาณิชย์ มีคนมาติดต่อมากมายด้วยรถยนต์ส่วนตัว แล้วก็เป็นหน่วยงานของรัฐอีกเหมือนกันที่มาออกกฏห้ามจอดรถตรงหน้าตึกแถว ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันในหลักการของหน่วยงานของรัฐ แล้วผลเสียก็มาตกกับเมืองและเอกชน น่าสงสัยมาก ว่าทำไมหน่วยงานของรัฐสองแห่งจึงไม่ตกลงกันให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วไม่ให้ประชาชนต้องมาเดือดร้อนกับมาตรการที่ขัดแย้งกันของหน่วยงานของรัฐด้วยล่ะ
สภาพของระบบสาธารณะสะท้อนสภาพทางสังคม
รถประจำทางสาธารณะคันนี้สะท้อนภาพและสื่อความหมายมากมายไปยังสภาพสังคมไทย รถสาธารณะที่ต้องมีความปลอดภัยทั้งกับผู้โดยสารและคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้โดยสารด้วย กลับมีสภาพที่ไม่ปลอดภัยโดยสิ้นเชิง ประตูทางออกฉุกเฉินก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะใช้งานได้ดี ตัวถังรถก็ไม่แน่นและขยับเวลาที่รถเคลื่อนที่ ปรากฏการณ์นี้เป็นเรื่องปกติของประเทศไทย เพราะคนไทยอยากได้สิ่งที่ดี แต่ไม่อยากจ่ายสตางค์ รถโดยสารประจำทางต้องการการซ่อมบำรุงให้อยู่ในสภาพดี จึงต้องมีรถจำนวนมากกว่าที่ใช้วิ่งจริงเอาไว้สำรองเวลาที่รถบางส่วนต้องเข้าซ่อมบำรุงตามวงรอบ หรือรถเสีย การที่จะมีรถเอาไว้สำรองคือต้นทุนการให้บริการที่เพิ่มขึ้น แต่คนไทยไม่ยอมจ่ายค่าตั๋วในราคาที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้รับความปลอดภัยกลับมา จึงต้องทนใช้รถที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่ต่อไป และถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา กลับไม่ได้หาเหตุผลที่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่กลับให้เหตุผลทางไสยศาสตร์ว่าเกิดจากความซวย หรือผิดผีอะไรไปเรื่อย ปัญหาจึงยังคงอยู่ต่อไป เพราะผีหรือเทพเจ้า ไม่สามารถช่วยใครได้ตลอดหรอก มาตรฐานด้านความปลอดภัยต่างหากที่จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้
ฉันมีห้องทำงานอยู่บนทางเท้า
ด้วยเหตุนี้ ช่างรับเหมาร้านค้าบริเวณปากซอยสุขุมวิท๕๓ จึงมีสิทธิเต็มที่ที่จะใช้ทางเท้าเป็นที่จอดรถขนส่งสินค้า และใช้เป็นพื้นที่สำหรับตัดโลหะ จะได้ประหยัดพื้นที่ด้านในของตัวร้านที่กำลังทำอยู่ ใครจะเดินไม่สะดวกเพราะรถกระบะจอดขวางทางอยู่ก็ไม่เป็นไร แถมยังต่อสายไฟมาใช้กับเครื่องตัดโลหะด้วย คนเดินเท้าต้องเสี่ยงภัยจากไฟดูด เศษโลหะกระเด็นใส่อย่างไร ก็ช่างมัน และเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนไทย คือตอนเดินผ่านจะลำบากหรือเสี่ยงภัยแค่ไหนก็ตาม พอเดินพ้นมันไปแล้วก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ฉันรอดจากอันตรายมาได้แล้วนี่ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย คนอื่นก็คงจะปลอดภัยเหมือนฉันเช่นกัน