เรามักจะได้ยินข่าวอยู่เสมอ ๆ ถึงการแข่งขันกันเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างสนามบิน Changi ประเทศสิงคโปร์กับสนามบินสุวรรณภูมิ จากข้อมูลของ wikipedia ระบุไว้ว่า สนามบิน Changi เป็นอันดับที่ ๒๒ ของโลกในแง่ของการรองรับผู้โดยสาร (อันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) และเป็นอันดับ ๙ ของโลกในการขนส่งสินค้า (อันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ในขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิได้อันดับที่ ๑๕ ของโลกในเรื่องจำนวนผู้โดยสาร (อันดับหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) และอันดับ ๑๙ ของโลกในด้านปริมาณการขนส่งสินค้า (อันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) การที่สนามบินระดับเดียวกันสองแห่งมีที่ตั้งใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดการแข่งขันกันเพื่อชิงความเป็นผู้นำในการขนส่งทางอากาศ แต่จากอันดับที่กล่าวมาแล้ว เห็นได้ว่าการแข่งขันนี้ยังไม่มีผู้ชนะอย่างเด็ดขาด และคงต้องมีการแข่งขันกันอย่างหนักอีกต่อไป
แต่เมื่อพิจารณาลงไปในรายละเอียดที่เกินกว่าอันดับที่คิดจากตัวชี้วัดเชิงปริมาณแล้ว สองสนามบินนี้อาจจะไม่ได้เป็นคู่แข่งกันเลยก็ได้ เพราะเมื่อพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางของผู้โดยสาร พบว่าสุวรรณภูมิจะมีสัดส่วนของการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวสูง ในขณะที่สนามบิน Changi มีสัดส่วนของการเดินทางเพื่อประกอบธุรกิจเป็นหลัก เพราะประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวส่วนสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ และในด้านของการขนส่งสินค้า ประเทศไทยมีพื้นที่ด้านใน (Hinterland)ที่มีทรัพยากรธรรมชาติและแรงงานที่ตอบสนองกับอุตสาหกรรมขั้นต้นและขั้นกลางจำนวนมาก ในขณะที่สิงคโปร์เป็นประเทศขนาดเล็ก ไม่มีพื้นที่เพื่อตั้งอุตสาหกรรมหนัก จึงมีการผลิตในขั้นสูงเป็นหลัก ดังนั้น ประเภทของสินค้าที่จะจัดส่งก็แตกต่างกันอีก นั่นหมายความว่า ทั้งสองสนามบินนี้ต่างก็มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอันเกิดจากที่ตั้งเฉพาะของตนเอง จึงมีช่องทางการตลาดที่เป็นของตนเองไม่คาบเกี่ยวกับอีกตลาดหนึ่งแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณอนาคตแล้ว ประเทศไทยมีความได้เปรียบในการแข่งขันสูงกว่า Changi เพราะจุดเด่นของประเทศไทยอยู่ที่ทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ติดกับพื้นที่ และการมีที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของประเทศที่ยังคงมีทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมากอย่าง ลาว กัมพูชา และพม่า แต่สิงคโปร์มีทรัพยากรมนุษย์ที่ดีกว่า ซึ่งประเทศไทยจะไปพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ง่ายกว่าสิงคโปร์พัฒนาหรือจัดหาทรัพยากรธรรมชาติ น่าเสียดายที่คนไทยไม่เห็นศักยภาพของตนเอง มัวแต่ไปเล่นเกมที่สิงคโปร์ได้เปรียบ ไม่ยอมเอาจุดเด่นของตนเองออกมาขาย แต่ไปพัฒนาตามกระแสของคนอื่นเขา ซึ่งทำอย่างไรก็สู้เขาไม่ได้ เพราะเขาพัฒนามาก่อนนานแล้ว มีองค์ความรู้มีต้นทุนที่สั่งสมกันมา สาธุ