Friday, September 14, 2007

บัตรเครดิต ปัจจัยที่ 5 ของคนเมือง

เรามักจะได้ยินปัญหาเกี่ยวกับการเป็นหนี้บัตรเครดิตของคนเมืองอยู่เสมอ ๆ หลายคนฟังข่าวเหล่านั้นด้วยความรู้สึกสมน้ำหน้า คิดว่าก็เป็นคนก่อหนี้เอง ก็ต้องรับกรรมไปสิ แต่ในแง่มุมของคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต เขาก็มีความจำเป็นของเขาเช่นกัน

ผู้เขียนไม่มีบัตรเครดิต เวลาที่ได้รับโทรศัพท์จากพนักงานขายบัตรเครดิต ก็จะบอกเขาไปว่า ผมทำบัตรเครดิตไม่ได้ครับ เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท แค่นี้ก็จบแล้ว เพราะตามระเบียบมันทำไม่ได้จริง ๆ แม้ว่าพนักงานขายจะบอกว่า ได้ข้อมูลมาจากสายการบิน ว่าคุณเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อย ก็จะตอบไปตามตรงว่า การเดินทางบ่อยไม่ได้หมายความว่า ผมจะมีเงินเดือนถึง 15,000 บาทนี่หว่า พนักงานขายก็จะจนปัญญาไปเอง

ผู้เขียนเป็นผู้ใช้เงินสดในการจับจ่ายใช้สอย และมักจะรู้สึกว่าตนเองเสียเปรียบด้านราคาอันเนื่องมาจากการยอมรับบัตรเครดิตของร้านค้าอยู่เสมอ เพราะการที่ร้านค้ามีเครื่องรูดบัตรเครดิต ร้านค้าจะต้องจ่ายอย่างน้อย 2-3% ของราคาสินค้าให้กับธนาคารเจ้าของบัตรเป็นค่าธรรมเนียม และอาจมีค่าธรรมเนียมพื้นฐานอื่น ๆ เช่น ต้องเช่าเครื่องรูดบัตรจากธนาคาร 3-5 พันบาทต่อเดือนด้วย ปัญหาที่เกิดกับผู้ใช้เงินสดก็คือ ร้านค้าส่วนใหญ่จะต้องตั้งราคาโดยรวมค่าธรรมเนียมของธนาคารไปไว้ในราคาขายแล้ว นั่นหมายความว่า คนที่จ่ายเงินสด แทนที่จะได้ซื้อสินค้าในราคาถูกกว่า เพราะร้านค้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต กลับต้องมาจ่ายในราคารเดียวกันกับคนที่ใช้บัตรเครดิต ซึ่งไม่ยุติธรรมกับคนที่ใช้เงินสดเลย แถมยังมีร้านค้าจำนวนไม่มากนักที่ยอมคิดส่วนต่างของบัตรเครดิตไปกับคนที่ใช้บัตร เพราะการกระทำดังกล่าวจะมีผลต่อยอดขาย

เมื่อสามเดือนที่แล้ว ผู้เขียนไปซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง มีคนจ่ายเงินที่ cashier ก่อนผู้เขียนแค่คนเดียว แต่ผู้เขียนต้องรอจ่ายเงินอยู่นานมาก เพราะลูกค้าคนก่อนหน้าผู้เขียน (เป็นพนักงานของห้างสรรพสินค้านั้นด้วย)ซื้อสินค้าในราคา 700 บาท แต่ต้องให้ cashier ลองรูดบัตรเครดิตทุกใบที่เขามี (ประมาณ 7 ใบ) เพื่อหาบัตรเครดิตที่ยังมีวงเงินเหลืออยู่เพียงแค่ 700 บาท เพราะบัตรเกือบทุกใบถูกใช้เต็มวงเงินแล้ว นั่นหมายความว่า ลูกค้าคนนี้ต้องมีหนี้จำนวนมหาศาล เพราะมีบัตรเครดิตที่ผมเห็นอย่างน้อย 7 ใบ แต่วงเงินเต็มไปแล้ว 6 ใบ แล้วแต่ละใบก็มีดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 20% นี่คือปัญหาเมืองที่สำคัญของชนชั้นกลางที่อยู่ในเมือง และเป็นต้นเหตุต่อเนื่องไปถึงปัญหาเมืองอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งคงสอดคล้องกับหลักการของสถาบันการเงิน ที่จะต้องปล่อยกู้ให้มากเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้รูปแบบใดก็ตาม