ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ต่าง ๆ ล้วนมีสาเหตุมาจากมีปริมาณรถมากเกินกว่าที่โครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจรจะรองรับได้ ทำให้เกิดการจราจรติดขัดไปทั่วทั้งเมือง และมาตรการที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว ก็คือการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชน เพราะเป็นการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากกว่ารถยนต์ส่วนตัว แต่การส่งเสริมระบบขนส่งมวลชนไม่ใช่สักแต่ว่าให้มียานพาหนะมารองรับเท่านั้น แต่ต้องจัดการบริการให้มีประสิทธิภาพและความสะดวกสบายเพียงพอที่จะสามารถแข่งขันกับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้ เพื่อดึงเอาผู้ที่ใชรถยนต์ส่วนตัวอยู่ให้หันมาใช้บริการขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพและความสะดวกสบายในระดับพอสมควร ไม่เพียงแต่ตัวของยานพาหนะเท่านั้น แต่หมายรวมถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น ป้ายรถเมล์ เป็นต้น
แต่ระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ เหมือนกับว่า "สักแต่ว่ามี" และถูกพิจารณาว่าเป็นการเดินทางสำหรับคนฐานะต่ำ ทำให้มีการให้บริการแบบขอไปที ดูอย่างป้ายรถเมล์บริเวณโบ๊เบ๊ ป้ายนี้ไม่มีร่มเงาให้กับผู้โดยสารแต่อย่างใด เคราะห์ดีที่ได้อานิสงส์จากร้านค้าตรงนั้นมาทำกันสาดผ้าใบให้ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ทำขึ้นเพื่อกันแดดเข้าร้านตัวเองเท่านั้น ผู้โดยสารจึงต้องยืนให้ติดกับตัวอาคารที่สุด เพื่อให้หัวได้ร่มเงาเท่านั้น แถมบนทางเท้าก็ยังมีตู้โทรศัพท์สาธารณะมาขวางทางอีกด้วย ทำให้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนี้ ต้องหนีไปเดินบนพื้นผิวจราจรเสียเลย แล้วอย่างนี้ จะมาแข่งขันกับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้อย่างไร